วันนี้แอดมิน ก็จะมาพูดถึง กันแดดตัวปี 2024 อัพเดตกันว่าตัวไหนดี ตัวไหนได้ไปต่อ เครื่องสำอาง วันนี้แอดมินก็ได้ไปจัดลำดับ กันแดดที่ดัง และเป็นกระแส ในปี 2024 นี้วันนี้เราจะมา ดูกันว่า กันแดดทุกตัวถ้าทาในปริมาณ ที่ถูกต้อง และเท่ากันหมด แล้วออกไป ตากแดดกัน จนไหม้ แล้วเช็คให้ว่า ตัวไหนประสิทธิภาพ กันแดดดีที่สุด ทาแล้วไม่ดำ ไม่ไหม้ แล้วก็ดูส่วน ผสมหลังกล่อง และทดสอบเนื้อ สัมผัสว่าตัวไหน จะดีตัวไหนจะดี จะได้ไปต่อกันค่ะ แต่ก่อนจะไปดู ความน่าสนใจ แอดมินก็ต้อง ขอฝากให้ไปติดตาม สกินแคร์แต่ละวัย ควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับวัย กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้อง ขอขอบคุณ แทงบอล ที่สนับสนุนบทความ ของเราในวันนี้ด้วยค่ะ
กันแดดตัวปี 2024 อัพเดตกันว่าตัวไหนดี ตัวไหนได้ไปต่อ
หลายๆคนจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญของทาครีมกันแดดสำหรับตัวสักเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นคนเลี่ยงแดด คนกางร่ม แล้วก็อยู่ในร่มอยู่แล้ว จนกระทั่งได้อ่านงานวิจัยอันนึง เกี่ยวกับแหล่งที่มาของแสง UV รู้หรือไม่ว่า 60% ของแสง UV ที่เราได้รับเนี่ย
ไม่ได้มาจากพระอาทิตย์โดยตรงหรือที่เราเรียกว่า Direct UV แต่มันมาจาก UV ที่สะท้อนจากเมฆ แล้วก็โมเลกุลในอากาศ หรือจะสะท้อนจากพื้น หรือกำแพงต่างๆ ที่เราเรียกว่า Indirect UV ก็ได้
เพราะฉะนั้นถึง แม้ว่าเราจะอยู่ใต้ร่ม ก็อย่าพึ่งชะล่าใจไปนะคะ เพราะว่าร่มนั้น กัน UV ได้แค่ 40% อีก 60% นั้นกำลังสะท้อนเข้าหาเราแบบจังๆเลยค่ะ จากด้านข้าง เพราะฉะนั้นอย่าลืมทากันแดดแม้อยู่ในร่ม หรือว่าอยู่ในห้องที่มีกระจกก็ตามค่ะ
เดี๋ยวเรามาเริ่มกันที่ตัวแรกเลย ที่เป็นกระแสมากอย่าง Cancer Council Work Sunscreen SPF50+ PA++++ ราคา 1400 บาทจากปริมาณ 1 ลิตร เป็นกันแดดจากประเทศออสเตรเลียที่ไวรัลบน TikTok มากๆ ออสเตรเลียเนี่ยเป็นประเทศ
ที่เป็นมะเร็งผิวหนังเยอะที่สุดในโลก ประมาณ 10% ของมะเร็งทั้งหมด ที่พบในประชากร เป็นมะเร็งผิวหนังเป็นเพราะว่าประเทศของเขา มีชั้นโอโซนที่บาง แล้วก็ไลฟ์สไตล์ของคน ก็มักจะทำกิจกรรมข้างนอกกันด้วย ก็เลยไม่แปลกใจ ที่คนออสเตรเลีย
เค้าจะสร้างสรรค์กันแดดกันมาก องค์กรมะเร็งผิวหนังของเค้า ก็ทำกันแดดออกมาขายเองเลย เป็นกันแดดที่ใช้เคมีคอลรุ่นเก่าหมดเลย แต่ก็เข้าใจได้นะคะ ว่าถ้าเค้าใช้รุ่นใหม่ ต้นทุน หรือว่าราคาก็จะแพงมาก เพราะเค้าให้มาในปริมาณที่จุใจ 1 ลิตรกันเต็มๆเลย และที่สำคัญเค้าทดสอบค่า SPF
แล้วก็ค่า PH บนผิวตามกฎหมายของออสเตรเลียเลย ซึ่่งความจริงก็ได้เข้าไปศึกษากฎหมาย เกี่ยวกับกันแดดของประเทศนี้แล้วพบว่า เค้าเอาส่วนที่โหดที่สุด หรือว่าส่วนที่ดีที่สุดของทุกประเทศทั่วโลก มารวมกันกันแดดที่เราขึ้นทะเบียนเป็นยานะคะ
หรือที่เรียกว่ายาเพื่อการบำบัด เราจะสังเกตได้จาก AUST L แล้วก็จะตามด้วยตัวเลข 6 หลัก ไม่ใช่เครื่องสำอางแบบที่บ้านเรานะคะ อย่างแรกเค้าดีกว่าไทยตรงที่ต้องทดสอบค่า SPF กับ PA บนผิวมนุษย์จริงหรือว่า In Vivo ตามมาตราฐานออสเตรเลี่ยน นิวซีแลนด์ 2604:2012 ซึ่งบ้านเราเนี่ย
ยังไม่ได้มีการบังคับใช้นะคะ อย่างต่อมาคือเค้ากว่ายุโรปตรงที่ว่า ค่าการกันน้ำในกันแดดเนี่ย แปลว่าต้องการได้จริง ตัวนี้เขียนว่ากันได้ 4 ชั่วโมงออสเตรเลีย กำหนดให้แปลว่าหลังจาก 4 ชั่วโมงเนี่ย ค่า SPF ยังต้อง 50+ อยู่ ซึ่งต่างจากยุโรป
ตรงที่กำหนดกันน้ำ 4 ชั่วโมง แปลว่าหลังจาก 4 ชั่วโมง SPF สามารถลดเหลือ 25 ก็ได้นะคะ อย่างต่อมาเค้าดีกว่าอเมริกาตรงที่ค่า PA หรือค่ากันแสง PA ต้องผ่านการทดสอบสองแบบมากกว่ามาตรฐานเมกา ซึ่งเราเห็นหลายครั้งเลย กันแดดเมกาที่เอามาขายในออสเตรเลีย ปรากฏว่าขายไม่ได้
เพราะว่าสอบตก แต่วันนี้เราจะไม่พึ่งทฤษฎีอย่างเดียวนะคะ เราให้อาสาสมัครพลีชีพ ทดลองทากันแดด แต่ละตัวในปริมาณ 2 มิลลิกรัม ต่อตารางเซนต์ ตากแดด 60 นาที ในนรก หรือชื่อทางการก็คือ แดดประเทศไทยตอนเที่ยงตรง
มาดูกันว่ากันแดดแต่ละตัว จะสามารถป้องกันได้ดี หรือว่าแย่ขนาดไหน ผลที่ได้ก็อาจจะแตกต่างกันแต่ละบุคคล แต่เกริ่นมาขนาดนี้ ผลที่ได้ก็ยังไม่ได้ดีขนาดนั้นนะคะ เราจะเห็นได้ว่ามีความคล้ำแบบเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนอยู่ แต่เดี๋ยวเรามาดูเนื้อสัมผัสกันก่อนเลยแล้วกัน ปริมาณกันแดดที่ต้องใช้สำหรับตัว
คือเท่าไหร่ ครึ่งช้อนชาสำหรับหน้า และคอ 1 ช้อนชาสำหรับแขนแต่ละข้าง 2 ช้อนชาสำหรับลำตัว และอีก 2 ช้อนชาสำหรับขาแต่ละข้าง รวมทั้งสิ้นเป็น 30 ml.หรือว่า 1 แก้วช็อตเลย ซึ่งเอาตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมเลย แล้วกันนะคะ ถ้าทาให้ถึงปริมาณนี้
เนื้อตัวนี้ค่อนข้างจะหนึบมาก นอกจากนี้ก็มีโอกาสเสื้อเหลืองเยอะเหมือนกัน เพราะว่าเค้ามีความขึ้นชื่อเรื่องความเสื้อเหลืองเลย ถ้าเปื้อนอย่าพึ่งซักผ้านะคะ เพราะว่าน้ำบ้านเรามีแร่เยอะ อาจจะทำให้คราบชัด แล้วก็ออกยากขึ้น เราควรจะบีบมะนาว ใส่จุดที่เลอะทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วก็ซักด้วย
น้ำเย็นในวันรุ่งขึ้น โดยรวมสำหรับเนื้อสัมผัสเองขอให้ c แล้วกัน ส่วนผสมอื่นๆก็ไม่ทราบนะคะ เพราะว่ากฎหมายออสเตรเลีย ไม่ได้บังคับให้แบรนด์ต้องเขียนส่วนผสมหลังกล่อง ไปต่อกับกันแดดตัวต่อไปเลยค่ะ Dermaction Plus by Watsons Advanced Sun Solar Barrier FaceBody Lotion SPF50+ PA++++ ตัวนี้ราคา 595 บาท สำหรับ 150 ml. เป็นกันแดดที่ทางวัดสันไทยแลนด์ เค้าผลิตในประเทศไทย แล้วก็ทำขายเองเลย ราคาตัวนี้อาจจะดูสูง แต่ว่าพอมาดูฟิลเตอร์กันแดดแล้ว คิดว่าคุ้มค่ามากใช้ตัวรุ่นเก่าหนึ่งตัว
แล้วก็รุ่นใหม่เพียบเลย แล้วก็ยังมีตัวไทเทเนี่ยมไดออกไซด์มาเสริมด้วย โดยรวมแล้ว แอดมินมองว่าฟิลเตอร์ดีมาก สำหรับราคา แล้วก็ปริมาณที่ได้ แล้วแอดมินก็ได้สอบถามทางแบรนด์แล้ว เค้าบอกว่าได้ทดสอบค่า SPF กับ PA บนจานเพาะเชื้อ
หรือว่าแบบ In Vitro เท่านั้น ทางแบรนด์เคลมข้างหน้าเลยว่า ใช้แล้วปะการังาหยุดตาย กอบกู้โลก กอบกู้ผิวตัวเองก่อนค่ะ หยุดใช้กันแดดวันนี้ ปะการังก็ไม่หยุดตายวันหน้า หยุดเอาสิ่งแวดล้อมมาทำการตลาดขายฝัน ขายความอุ่นใจ เอาเงินเอาเวลาไปเรียกร้องให้รัฐบาล แก้ไขปัญหาที่แท้จริง
ของปะการังตาย โลกร้อน เผาป่า ประมงไม่ยั่งยืน ไม่ใช่มาออกกฏหมายแบรนด์กันแดดสร้างภาพลักษณ์ ว่ารักโลก ผลภาระภาระให้เจ้าหน้าที่อุทยานหน้างาน ต้องมาใช้แว่นขยายดูส่วนผสมเคมีหลังขวด แอดมินอยู่กับเคมีทุกวัน ก็ยังจำชื่อพวกนี้ไม่ได้เลย
ออกกฏหมายแล้ว ไม่มีวิธีบังคับใช้ ก็อย่าออกเลยค่ะ แต่กันแดดตัวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากเลยนะคะ ซึ่งความจริงก็ตามที่คาดเอาไว้เลย เพราะว่าฟิลเตอร์กันแดดที่เค้าเขียนเอาไว้ เป็นตัวที่ประสิทธิภาพสูงทั้งนั้น ก็ต้องขอให้ใช้ได้แล้วกัน ส่วนตัวเนื้อสัมผัสค่อนข้างชุ่มชื้นมาก ส่วนตัวไม่ได้ใช้คำว่า
เบาหรือว่าแมตช์แน่นอน แต่ว่ามันก็ไม่ได้ ถึงกับหนักผิวยังค่อนข้างสบายผิวอยู่ ถือว่าทำได้ดีเลย ในด้านความเสื้อเหลือง แอดมินว่าไม่ได้มีตัวไหน ที่ทำให้เสื้อเหลืองมาก ถามว่าจะเหลืองได้ไหม ก็อาจจะได้ เพราะว่ามันก็ขึ้นอยู่กับการตลาด แล้วก็สารเคมีแต่ละตัวด้วย โดยรวมก็คาดเดาได้ยาก คิดว่าโอกาสค่อนข้างต่ำนะคะ