วันนี้อยู่กับลิปสติกตัวใหม่อย่าง Chanel Rouge Allure Laque ที่ออกมาใหม่ ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งมีสีให้เลือกมากมาย ถึง 18 สีใหม่ และวันนี้ แอดมินจะมาเปรียบเทียบให้ฟังด้วย ว่าความแตกต่างระหว่าง สีลิปตัวเก่า ของชาแนล ที่แอดมินเคยรีวิวไปแล้ว กับสินค้าตัวนี้ ว่ามันมีความต่างกันอย่างไร และอธิบายให้พอเข้าใจ ว่ารุ่นใหม่นี้ ว่าทำไมแอดมินถึงได้ชอบ และอยากจะเชียร์ และอยากให้ทุกคนนั้น มีโอกาสได้ลองกันนั้นเองค่ะ
Chanel Rouge Allure Laque
ลิปสติกที่ไม่ควรพลาด
อย่างแรกที่ควรพูดถึง นั้นก็คือ ความแตกต่างของสูตรเก่าและสูตรใหม่ล่าสุด แตกต่างจาก ลิปสติกที่เรานั้นคุ้นเคยอย่างไร อย่างแรกที่อยากจะบอก นั้นก็คือ สำหรับแอดมินแล้ว มันมีความรู้สึกเหมือนกับว่า มันเป็นลิปไฮบริด ก็คือมันเป็นทั้งลิปสติก และมันก็เป็นทั้งลิปกลอสในเวลาเดียวกัน คือปกติ เราลองนึกๆถึงง่ายๆ ว่าถ้าเกิดว่าเรานั้นอยากจะทาลิป ให้มันได้ลุคแบบจุซซี่ ปากอวบอิ่มอะไรต่างๆ ก็คือเรานั้นต้องทาลิปสติกหนึ่งแท่งก่อน
เสร็จแล้ว เราก็ต้องไปหากลอส ที่มันสีใกล้เคียงกันมาทา เพื่อให้มันได้ความจุซซี่อวบอิ่ม เพิ่มขึ้นมา มันก็จะมีความยาก ที่เรามีลิปสติก แล้วไม่มีลิปกลอส สีที่ใกล้เคียงกัน หรือว่าเอากลอสใสมาทาทับ กลอสใสจะเลอะสีลิปสติก คือมันวุ่นวายไปหมด ชาแนลเขาก็เลยคิดว่า อยากจะทำลิป ที่เป็นเนื้อซาติน ที่ฉ่ำวาวด้วย แต่ว่าก็มีสีชัดเจน เหมือนราวกับว่า เรานั้นทาลิปสติกด้วยนะคะ
ก็เลยเกิดสินค้าตัวนี้ขึ้นมา ตัวนี้เนี้ย อย่างที่บอกไปว่ามัน มีความไฮบริดหน่อย โดยที่เรานั้น จะเห็นอย่างชัดเจน ตอนที่สควอชสี กับตัวเองอย่างชัดเจน ว่าสีมันชัด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา ให้เรานั้นได้สีที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าแบบ เห็นสีที่แพคเกจ แต่พอทาออกมาแล้ว ไม่เห็นว่าสีเหมือนกันเลย สีน้อยจังอะไรแบบนี้ ไม่ใช่แบบนั้นเลย มันจะเป็นสีที่ชัดเจนเลยนะค่ะ เชื่อว่าหลายๆคนนั้นต้องชอบ ข้อนี้มาก
และอย่างที่สองนะคะ คือมันให้ความชุ่มชื่น กำลังพอดี ไม่เหนียว ไม่หนึบ พูดแล้วไม่ได้เกิดเป็นไยแมงมุม แล้วเป็นปากยืดๆ อย่างภาพจำที่เรานั้น เคยจำกัน ในแบบลิปกลอสที่ไม่ดี ใดใดทั้งสิ้น กำลังพอดี วาวกำลังดี นอกเหนือจากนั้น มันยังมีสารบำรุง ทำให้มันดูสุขภาพดี สีไม่ตกร่องเลย และนี่ก็เป็นอีกข้อหนึ่ง ที่ชอบในสินค้าตัวนี้ เป็นอย่างมากเลย และมาใน 18 สีให้เลือก อย่างจุใจ
Traceless Soft Matte คลิก TOM FORD BEAUTY