วันนี้แอดมินจะมารีวิว AirPods Pro เรียกได้ว่าเป็นรุ่นโปร ของหูฟังแอปเปิ้ล ที่เพิ่งเปิดตัวกันมา สดๆร้อนร้อนในปีหนึ่งถึงสองปีนี้ ต้องขอบอกให้ฟังอย่างนี้ก่อนว่า แบรนด์แอปเปิ้ล ได้เปิดตัวหูฟังรุ่นนี้มา สี่ถึงห้าปีแล้วโดยทีแรก ที่เพิ่งเปิดตัวแล้วออกขายจำหน่ายสินค้ามา หูฟังตัวนี้ก็ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ของหูฟังไร้สาย ที่มียอดขายสูงสุด โดยที่ทางแบรนด์ ได้ออกสินค้ารุ่นใหม่มา ซึ่งเป็นรุ่นโปร จากสินค้าหูฟังไร้สายแบบเดิม แต่ว่าไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะว่ารุ่นเดิมก็ยังคงมีขายอยู่ แต่รุ่นใหม่นี้ เพิ่มลูกเล่นบางอย่างเข้ามา โดยเฉพาะลูกเล่นที่เข้ามา และเป็นจุดขาย ของหูฟังไร้สายรุ่นนี้ นั่นก็คือการตัดเสียงรบกวนรอบข้าง เข้ามาภายใน หูฟังไร้สายแห่งนี้
AirPods Pro รีวิวเเบบละเอียด
มาดูที่ดีไซน์ของกล่อง ในแพ็คเก็ตจิ้ง ที่เค้าให้มากันดีกว่าค่ะ โดยที่กล่อง จะมาในกล่องกระดาษขาว แข็งแข็งแบบเดิม คล้ายรุ่นเดิมนะคะ โดยที่ด้านหน้าของตัวกล่อง จะพิมพ์รูปเดิม ของหูฟังไร้สาย แบบเดิมเอาไว้ โดยที่จะมีลักษณะนูน ขึ้นมาจากตัวกล่อง โดยที่ถ้าเราเปิดตัวกล่องแล้ว จะพบกับสิ่งแรก นั่นก็คือคู่มือของสินค้าตัวนี้ เอกสารกำกับต่างๆ
และเมื่อหยิบคู่มือออก เราจะพบกับตัวสินค้า หูฟังไร้สายของเราตัวนี้มา ในลักษณะสี่เหลี่ยมมน สีขาวขนาดกระทัดรัด โดยที่หูฟังรุ่นนี้ จะขายแบบในลักษณะเดิม คือจะมีแค่รุ่นสีขาว เพียงเท่านั้น โดยที่เมื่อหยิบตัวหูฟังออกแล้ว เราก็จะเห็นสายชาร์ท ซึ่งสายชาร์ทรุ่นนี้ ไม่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า ที่เค้าให้มา เพราะอีกหัวด้านหนึ่ง มันจะเป็นสายชาร์ทไทปc
และเมื่อเปิดหลังสายชาร์ทแล้ว เราจะเห็นหูเปลี่ยน รูหูฟังที่เค้าให้มา โดยที่เค้าให้มาถึง สองคู่สี่หู โดยที่จะมีลักษณะแตกต่างกัน นั่นก็คือขนาดไซด์เล็ก ไซด์เอ็ม และขนาดไซด์ใหญ่ ไซด์แอล มาอย่างละหนึ่งคู่ค่ะ เท่านั้นยังไม่พอนะคะ คิดว่าสองคู่ยังไม่พอ แต่ที่จริงแล้วมันมีไซด์ปกติ ปกติซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน มาให้อยู่ในกล่องตรงหูฟังอยู่แล้ว อีกหนึ่งคู่ค่ะ รวมทั้งหมด ที่เค้าให้มาจริงๆ ก็คือสามคู่
ต่อมาเรามาดูกัน ที่ตัวเครื่องของหูฟังกันบ้างดีกว่าค่ะ ถ้าใครคุ้นชินกับ ลักษณะเดิม แล้วพอมาซื้อรุ่นใหม่ เราจะค้นพบว่า รุ่นใหม่นี้ มีลักษณะแตกต่าง จากตัวเดิม เพราะว่าจะมีลักษณะ ที่แบนขึ้นมากกว่าเดิม เล็กกว่าเดิม แต่ขว้างออกใหม่ มากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ และฝาปิดด้านบน ที่ยังคงทำงานเหมือนเดิม แต่มาพร้อมกับฝาปิด ที่ขว้างขึ้น มากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ
สเปกขั้นเทพ คลิก Mac Studio